แอนโทนี่ ปีกความเร็วสูงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายืนยันว่า การที่เขาใช้มือป้องหูใส่นักเตะ โคเวนทรี ซิตี้ หลังจบเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ เป็นการตอบโต้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของฝั่งคู่แข่ง เพื่อรักษาเกียรติของสโมสรและแฟนบอล “ปีศาจแดง” เท่านั้น
ดาวเตะทีมชาติบราซิล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “โคเวนทรี แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมพวกเขาผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ ส่วนเราเองก็ต้องการเข้าชิงชัยเพื่อแฟนบอล ซึ่งเราก็ทำสำเร็จ”
“ผู้เล่น โคเวนทรี ปฏิบัติต่อแฟนบอลของเราในลักษณะที่ไม่ค่อยดีนัก ผมจึงโต้ตอบการยั่วยุของพวกเขาไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพื่อปกป้องสโมสรตามธรรมชาติ!”
แอนโทนี่ ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการแสดงท่าทางเอามือป้องหูใส่ผู้เล่น โคเวนทรี หลังจบเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องตามตีเสมอในเวลาปกติ 3-3 ก่อนจะเอาชนะการดวลจุดโทษไป 4-2
แม้ เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ “ปีศาจแดง” จะปกป้องลูกทีมที่ซื้อมาด้วยค่าตัว 86 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ก็ยอมรับว่า แอนโทนี่ ไม่มีความจำเป็นต้องแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากคำชี้แจงของ แอนโทนี่ แสดงให้เห็นถึงสปิริตและความทุ่มเทของเขาที่มีต่อสโมสรและแฟนบอล เขาเต็มใจที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ในยามที่ถูกคู่แข่งยั่วยุ การกระทำดังกล่าวอาจดูไม่เหมาะสมในสายตาของหลายคน แต่ก็สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง อันเป็นคุณสมบัติสำคัญที่นักฟุตบอลพึงมี
ตอนนี้ แอนโทนี่ และเพื่อนร่วมทีม กำลังเดินหน้าสู้ศึกรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ซึ่งพวกเขาต่างมีสมาธิกับการคว้าแชมป์รายการสำคัญนี้ เพื่อประดับความสำเร็จให้กับสโมสร และเป็นของขวัญตอบแทนแฟนบอลที่คอยหนุนหลังมาตลอดฤดูกาลเป็นอย่างดี
แอนโทนี่ ปีกความเร็วสูงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจบเกม เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ กับ โคเวนทรี ซิตี้ โดยยืนยันว่า การใช้มือป้องหูใส่นักเตะคู่แข่งนั้น เป็นการตอบโต้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากฝั่งโคเวนทรี เพื่อรักษาเกียรติของสโมสรและแฟนบอล “ปีศาจแดง” ซึ่งเขามองว่าการกระทำนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการปกป้องเกียรติยศของทีม
ดาวเตะทีมชาติบราซิล ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “โคเวนทรี แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงสามารถผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ ขณะเดียวกัน เราก็มีเป้าหมายที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเพื่อแฟนบอล ซึ่งเราก็ทำสำเร็จในที่สุด” เขาเสริมว่า “ผู้เล่น โคเวนทรี ปฏิบัติต่อแฟนบอลของเราในลักษณะที่ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น ผมจึงโต้ตอบการยั่วยุของพวกเขาไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพื่อปกป้องสโมสรตามธรรมชาติ!”
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว แอนโทนี่ ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการแสดงท่าทางเอามือป้องหูใส่ผู้เล่นโคเวนทรี หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องตามตีเสมอในเวลาปกติ 3-3 ก่อนจะเอาชนะการดวลจุดโทษไป 4-2 แม้ว่า เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ของทีมจะออกมาปกป้องลูกทีมที่ซื้อมาด้วยค่าตัวสูงถึง 86 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ก็ยอมรับว่า แอนโทนี่ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงปฏิกิริยาเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงของ แอนโทนี่ ได้สะท้อนถึงสปิริตและความทุ่มเทของเขาที่มีต่อสโมสรและแฟนบอล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเต็มใจที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ในยามที่ถูกคู่แข่งยั่วยุ การกระทำดังกล่าวอาจดูไม่เหมาะสมในสายตาของหลายคน แต่ก็สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพและการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่นักฟุตบอลพึงมี
ในขณะนี้ แอนโทนี่ และเพื่อนร่วมทีมกำลังมุ่งหน้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ที่จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ โดยพวกเขามีสมาธิกับการคว้าแชมป์รายการสำคัญนี้ เพื่อประดับความสำเร็จให้กับสโมสร และเป็นของขวัญตอบแทนแฟนบอลที่คอยสนับสนุนทีมมาอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา
การชิงชัยระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาดว่าจะเป็นการพบกันที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากทั้งสองทีมต่างมีความกระตือรือร้นที่จะคว้าแชมป์ พร้อมกับเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่คอยสนับสนุนอยู่ข้างสนาม นอกจากนี้ การพบกันในครั้งนี้ยังมีความหมายมากกว่าแค่การแข่งขันในสนาม แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวของแฟนบอลที่มีต่อทีม โดยเฉพาะในวันที่สำคัญเช่นนี้.