doofootball.asia

ดายเออร์ เผยความแตกต่างการทำงานกับ 3 กุนซือ

ดายเออร์ เผยความแตกต่างการทำงานกับ 3 กุนซือ

เอริค ดายเออร์ ปราการหลังของ บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่จากศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี ได้ออกมาเปิดเผยถึงความแตกต่างระหว่างการร่วมงานกับ 3 ผู้จัดการทีม ได้แก่ อังเก้ ปอสเตโคกลู, อันโตนิโอ คอนเต้ และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ สมัยที่ยังเล่นให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

ดายเออร์ ที่ย้ายจาก สเปอร์ส ไปซบ บาเยิร์น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เผยว่า “อังเก้ ปอสเตโคกลู ไม่ได้เน้นงานด้านแท็กติกมากนักในการฝึกซ้อม แต่เขาจะวางโปรแกรมซ้อมตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เพื่อให้สอดคล้องกับสไตล์การเล่นที่ต้องการ”

“ส่วน คอนเต้ ผมบอกได้เลยว่าบ้าไปเลย เขาจะเน้นงานแท็กติกอย่างละเอียดยิบในทุกวันจันทร์ถึงศุกร์เลย ยกตัวอย่างเช่น ซ้อมโจมตีสิบต่อศูนย์ ซ้อมเคลื่อนที่อยู่ตลอด พอซ้อมจนชินแล้ว มันจะฝังอยู่ในสมองคุณไปเลย”

“ขณะที่การทำงานกับ โปเช็ตติโน่ เป็นช่วงเวลาที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต แม้เราไม่เคยได้แชมป์อะไรเลย ทั้งที่มีหลายครั้งที่เราน่าจะทำได้ เช่น ฤดูกาลที่ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ หรือปีต่อมาที่ เชลซี ได้แชมป์ มันเลยทำให้เรารู้สึกผิดหวังอยู่เรื่อยๆ”

ดายเออร์ วัย 30 ปี อยู่ค้าแข้งกับ สเปอร์ส ยาวนานถึง 10 ฤดูกาล ลงเล่นให้ทีมไปกว่า 300 เกม

คำให้สัมภาษณ์ของ ดายเออร์ สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานกับโค้ชแต่ละคนนั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป ทั้งเรื่องปรัชญาการทำทีม, การฝึกซ้อม และการวางแท็กติก ซึ่งล้วนมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันออกไป แม้ ดายเออร์ จะไม่เคยได้แชมป์ร่วมกับ สเปอร์ส เลย แต่ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ด้วยการพาทีมจบท็อปโฟร์หลายครั้ง รวมถึงเป็นขุมกำลังหลักของทีมมาอย่างยาวนาน

การที่เขาย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น ในช่วงบั้นปลายอาชีพ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ ที่จะได้เรียนรู้วิธีการทำงานในสไตล์เยอรมัน ภายใต้การนำทัพของกุนซืออย่าง ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ปัจจุบันพวกเขายังมีลุ้นแชมป์ทั้งบุนเดสลีกาและแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ หาก ดายเออร์ ปรับตัวเข้ากับแท็กติกใหม่ๆ ได้อย่างลงตัว ก็มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จกับ บาเยิร์น มากกว่าสมัยค้าแข้งกับ สเปอร์ส เป็นแน่ ก่อนจะแขวนสตั๊ดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เอริค ดายเออร์ ปราการหลังชาวอังกฤษของ บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกา เยอรมนี ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานร่วมกับสามผู้จัดการทีมที่เขาเคยเล่นด้วยที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ได้แก่ อังเก้ ปอสเตโคกลู, อันโตนิโอ คอนเต้ และเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ โดยเขาได้พูดถึงความแตกต่างในรูปแบบการฝึกซ้อมและปรัชญาการทำทีมของแต่ละคน

สไตล์การทำงานที่แตกต่าง

ดายเออร์ที่เพิ่งย้ายจาก สเปอร์ส ไปอยู่กับ บาเยิร์น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กล่าวว่า “อังเก้ ปอสเตโคกลู มีแนวทางที่แตกต่าง โดยไม่เน้นการฝึกซ้อมที่ซับซ้อนในแง่แท็กติก แต่จะจัดโปรแกรมซ้อมตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ให้สอดคล้องกับสไตล์การเล่นที่เขาต้องการ” นี่แสดงให้เห็นว่า ปอสเตโคกลู ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของผู้เล่นให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในทางตรงกันข้าม ดายเออร์ได้พูดถึง คอนเต้ ว่า “คอนเต้เป็นคนที่เข้มงวดมากในการฝึกซ้อม เขาให้ความสำคัญกับการทำแท็กติกอย่างละเอียดในทุกๆ วัน ทำให้ทุกคนเข้าใจกลยุทธ์ที่ชัดเจน ซึ่งมีการซ้อมโจมตีที่เน้นการทำงานร่วมกันอย่างหนัก” การทำงานในลักษณะนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนมุ่งมั่นในการเสริมสร้างทีมให้แข็งแกร่ง

เมื่อพูดถึง โปเช็ตติโน่ ดายเออร์กล่าวว่า “ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ผมจะจดจำไปตลอดชีวิต แม้เราจะไม่เคยได้แชมป์ แต่เรามีโอกาสหลายครั้ง” ความรู้สึกผิดหวังจากการพลาดแชมป์ในฤดูกาลต่างๆ รวมถึงการพลาดแชมป์ในฤดูกาลที่ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้วัดเพียงแค่การคว้าแชมป์ แต่ยังรวมถึงการเติบโตและการพัฒนาของทีม

อนาคตที่ บาเยิร์น มิวนิค

ดายเออร์ในวัย 30 ปีมีประสบการณ์การค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกกับ สเปอร์ส เป็นเวลา 10 ฤดูกาล ลงเล่นให้ทีมมากกว่า 300 นัด แม้จะไม่เคยได้แชมป์ แต่เขาก็มีบทบาทสำคัญในการพาทีมจบท็อปโฟร์หลายครั้ง ถือว่าเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง การย้ายไป บาเยิร์น ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย และโอกาสในการเรียนรู้สไตล์การเล่นใหม่ภายใต้ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์

ปัจจุบัน บาเยิร์น มิวนิค ยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์ทั้งบุนเดสลีกาและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และหากดายเออร์สามารถปรับตัวเข้ากับแท็กติกใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เขามีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จที่ บาเยิร์น มากกว่าสมัยค้าแข้งกับ สเปอร์ส ก่อนที่จะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การให้สัมภาษณ์ของดายเออร์ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อผู้จัดการทีมทั้งสามคน แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และเติบโตในอาชีพการเล่นฟุตบอลของเขาในเวทีใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น

Doofootball สด ผลบอลสด วันนี้